"Casa Lapin (Central World)" ร้านกาแฟสไตล์อินดี้ที่เหล่า Cafe Hopper ทั้งหลายต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในนามของ Casa Lapin
จากบ้านกระต่าย ร้านกาแฟสไตล์อินดี้ที่เหล่า Cafe Hopper ทั้งหลายต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในนามของ Casa Lapin ก้าวสู่การเป็นไลฟ์สไตล์คาเฟ่แบบเต็มตัวกับโลเคชั่นใหม่ในห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัลเวิลด์เป็นครั้งแรก เสมือนเป็น Flagship Store ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีความหรูหราและเติบโตมากขึ้น พร้อมต้อนรับ Cafe Hopper กลุ่มใหม่ ๆ ด้วยหลากหลายความอร่อยตั้งแต่เมนูกาแฟ อาหารเช้า ขนมหวาน ไปจนถึงเครื่องดื่มม็อกเทล ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ที่สามารถนั่งชิลล์เอาท์ได้ตลอดทั้งวัน
เครื่องกาแฟ steampunk นวัตกรรมสุดทันสมัยที่มีเพียงเครื่องเดียวเฉพาะที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์เท่านั้น
สำหรับ Casa Lapin สาขาเซ็นทรัลเวิลด์นี้ได้มีการปรับโฉมคาเฟ่ครั้งใหม่ไปพร้อม ๆ กับการ Re-Branding ที่สะดุดตามากขึ้นนับตั้งแต่การออกแบบโลโก้ที่เปลี่ยนไปจากรูปบ้านกระต่ายลายเส้นรูปทรงเลขาคณิตแบบสเก็ตช์ด้วยมือเป็นโลโก้กราฟิกรูปกระต่ายหูยาวที่ลดทอนรายละเอียด ดีไซน์ลายเส้น ตัวอักษรบนโลโก้มาอย่างลงตัว ด้วยลุคที่ดูพรีเมียมและเท่มากขึ้น
ภายใต้บรรยากาศของคาเฟ่สไตล์ Musculine ที่ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถเข้ามานั่งทานได้แบบไม่ต้องเคอะเขิน แต่ยังคงตกแต่งดีไซน์ตัวร้านในสไตล์เมโทรเช่นเดิม พร้อมเสริมตัวเฟอร์นิเจอร์ จัดไฟที่ช่วยเพิ่มมู้ดแอนด์โทนที่ดูหรูหรามากขึ้นกว่าเดิม เปิดรับกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้น ที่ไม่เพียงแต่เฉพาะกลุ่ม Coffee Lover เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติด้วย
บ้านกระต่ายหลังใหม่ มีหลากหลายโซนให้เลือกนั่ง
เชื่อมโยงไปถึงคอนเซ็ปต์ใหม่ในธีมของ ‘Runway Home’ หรือทางเดินเข้าบ้านกระต่าย เพื่อสื่อให้กลุ่มลูกค้าเก่าและกลุ่มลูกค้าใหม่ได้เข้าใจว่า Casa Lapin ยังคงเป็นบ้านกระต่ายหลังเดิม เพียงแต่เติบโตและเพิ่มการบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลายขึ้น ทั้งเมนูขนม เมนูอาหาร และเมนูเครื่องดื่มแบบครบทุกฟังก์ชัน ได้แก่ โซนบาร์กาแฟที่เสิร์ฟทั้งแบบนั่งดื่มที่ร้านและแบบ Take Away
บาร์อาหารและขนม และโซนบาร์เครื่องดื่ม โดยบริเวณด้านหน้าสุดมีโซนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของทาง Casa Lapin และแบรนด์พาร์ทเนอร์ไว้ให้เลือกซื้อด้วย บาลานซ์ความเป็นคาเฟ่กาแฟแบบจริงจังและบรรยากาศอบอุ่น ๆ สบาย ๆ ที่ให้ความรู้เหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านกระต่ายเข้าไว้ด้วยกัน
บาร์เครื่องดื่ม
โดยผู้ดื่มสามารถเลือกเมล็ดกาแฟ Single Origin ทั้งที่เป็นเมล็ดกาแฟไทยซึ่งทางร้านเป็นคนคั่วเอง เบลนด์เมล็ดเอง คิดสัดส่วนของเมล็ดเองทั้งหมด และเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศ โดยจะผลัดเปลี่ยนประเภทของเมล็ดกาแฟไปเรื่อย ๆ เพื่อให้คนรักกาแฟได้ลิ้มลองความหลากหลายของรสชาติกาแฟ
บาร์กาแฟ
ในส่วนของเมนูแนะนำนั้น เริ่มจากเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Dirty (120 บาท) กาแฟเย็นที่ท็อปบนด้วยช็อต Ristretto ให้รสชาติเข้มข้นหวานฉ่ำของกาแฟและความหวานของนมสดที่ผสานเข้าได้อย่างลงตัว
Dirty (120 บาท)
Nitro Cold Brew (150 บาท)
แล้วมาอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารเช้าแบบเบา ๆ ที่ทำออกมาในลักษณะของ Light Meal มื้ออาหารระหว่างวันที่ไม่หนักจนเกินไป แต่ทานแล้วอิ่มท้องกำลังดี พร้อมเสิร์ฟให้บริการตลอดทั้งวันกันบ้าง ด้วยเมนูยอดนิยมอย่าง Scrambled Egg and Avocado (260 บาท) แซนด์วิชหน้าไข่ข้นอะโวคาโด เป็นอีกหนึ่งเมนูสำหรับคนรักสุขภาพ โดยทางร้านจะนำอะโวคาโดมาวางบนขนมปังโทสต์กรอบ ๆ แล้วท็อปด้วยผัก ไข่ข้น และแฮมอีกครั้งหนึ่ง ทานพร้อม ๆ กัน ได้รสชาติและเท็กซ์เจอร์ที่เข้ากันอย่างลงตัว
Scrambled Egg and Avocado (260 บาท)
Salmon Cream Cheese (280 บาท)
ถัดจากของคาว มาต่อกันที่ของหวานต้องห้ามพลาดกับเมนูต่าง ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Healthy Food ทานแล้วไม่รู้สึกผิดมากนัก ผ่านการดัดแปลงวัตถุดิบและปรุงรสแบบน้อยที่สุด และใส่ผลไม้สดลงไปให้มากที่สุด ได้แก่ White Chocolate Yogurt (220 บาท) กรีกโยเกิร์ตที่นำไปผสมกับไวท์ช็อกโกแลตแท้คุณภาพดี คลุกเคล้าให้เข้ากันในอุณหภูมิที่เหมาะสม ได้ความครีมมี่เท็กซ์เจอร์แน่น ๆ รสละมุนของโยเกิร์ต ราดมิกซ์เบอร์รีซอสและครัมเบิลกรุบกรอบ ทานคู่กันกับผลไม้สดเข้ากันสุด ๆ
White Chocolate Yogurt (220 บาท)
Spicy Margarita (165 บาท)
Pina Colada (165 บาท)
เปิด-ปิด : 10.00-22.00น. ทุกวัน
โทร : 0-2264-5458
ที่มา : bkkmenu.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น